DETAIL
| MODEL | : Mercedes Benz GLA200 W156 |
| INSTALLATION | : กล้องติดรถยนต์ Thinkware F800 |
วันนี้แอดมินเอาใจเจ้าของรถ Mercedes Benz GLA200 W156 บ้าง มารอดูกันค่ะว่าเป็นอุปกรณ์ตัวไหน ตามกันมาเลยค่ะ
Mercedes-Benz GLA ถือเป็นรถที่ดูสวยงามลงตัว โดดเด่นตามแบบฉบับรถ Mercedes สมัยใหม่ ซึ่งจะว่าไปมันดูคล้ายกับ A-Class หลายส่วนด้วยกัน ทั้งไฟหน้าไบซีนอน ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวและไฟ Daytime Running Light เป็นแบบ LED เช่นเดียวกับไฟเบรก และไฟท้าย กระจังหน้าสีเงินโครเมียม ดูหรูหรา รับกับชายสเกิร์ตหน้า และหลังสีเงิน ช่วยเสริมความสวยงามให้กับรถในคราบ Crossover ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นท่อไอเสียออกคู่ทรงเหลี่ยม ยังช่วยเสริมภาพความเป็นรถสปอร์ตหรูเข้าไปใน GLA คันนี้อีกด้วย เราอาจเปรียบ GLA ได้ว่ามันเป็น A-Class ในร่างยกสูง ซึ่งจะมีขนาดตัวที่ใหญ่ A-Class อยู่เล็กน้อย เปรียบได้กับไซส์รถกลุ่ม C-Segment ทั่วไป
แม้ว่าภายนอก GLA จะดูมีทรวดทรงที่สวยงามไร้ที่ติ แต่การใช้งานจริงของภายในห้องโดยสารนั้น ก็พบว่ายังมีจุดติอยู่บ้าง ได้แก่ ทัศนวิสัยภายในห้องโดยสาร ที่ดูค่อนข้างแคบ และมีมุมอับเยอะมาก ที่เสา B ด้านข้าง เวลาจะเปลี่ยนเลนจะต้องระวังรถจักรยานยนต์ ทางฝั่งซ้ายให้ดี เพราะกระจกมองข้างจะมองไม่เห็นถือเป็นจุดบอดอย่างหนึ่งในการขับขี่ที่ต้องระมัดระวัง และประตูบานท้ายที่หนัก และไม่มีระบบกลไกไฟฟ้าช่วยในการเปิด-ปิด ซึ่งหากเป็นคุณแม่บ้านที่ต้องาการไปจ่ายตลาดอาจจะเหนื่อยได้กับการยกเปิดประตูบานท้ายนี้ โดยทั่วไปแล้วรถแนว Crossover รวมไปถึงช่วงล่างในแบบฉบับของ Mercedes จะเซ็ตออกมาให้ความรู้แข็งไปหน่อย แต่กลับ GLA คันนี้ ถือว่าเซ็ตออกสไตล์ Comfort ได้ดีด้วย เรียกได้ว่า นั่งสบายกว่าที่คิดไว้ นอกจากนั่งสบายแล้ว มันก็ไม่ได้นิ่มเกินไป ยังเกาะถนนได้ดีด้วยไม่แพ้กัน กล้องบันทึกที่ติดตั้งคือ Thinkware F800 Pro หนึ่งในตัวท๊อปในตลาด ฟังก์ชั่นจำเป็นต่างๆตัวนี้ก็มีเกือบครบเลยค่ะ คร่าวๆดังนี้ .. สามารถถ่ายวีดีโอ Full HD 30FPS ทั้งกล้องหน้าและหลัง มี WDR มี Super Night Vision 2.0 ที่ช่วยถ่ายในที่มืดได้สว่างขึ้นกว่าตอนไม่เปิด 1000% ใช้เซ็นเซอร์ Sony ตัวใหม่ SONY Exmor R Starvis ตอนแสงน้อยนี่สว่างเว่อร์ มี GPS ส่วน ADAS ก็มีครบทั้ง LDWS FCWS FVDW ตัว App ในมือถือมีรองรับทั้ง Android iOS แถม Window หรือ MacOS ก็มีเช่นกันค่ะ บันทึกขณะจอดได้ แถมเลือกบันทึกแบบ Time Lapse ได้อีกด้วย และถ้าจอดรถในที่มืดๆ เค้าก็มี Super Night Vision 2.0 จะได้ไม่ต้องมานั่งดูวีดีโอดำๆ WiFi มีไว้ต่อกับสมาร์ทโฟน ดูผ่านสมาร์ทโฟนง่ายๆ ไม่ต้องง้อจอของกล้องเลยค่ะ และสุดท้าย G-sensor Motion sensor ก็สามารถใช้ได้ทั้งโหมดปกติและ Parking mode
ลงลึกถึงรายละเอียดกันอีกสักนิด พูดถึงระบบทำงานขณะจอดแบบ TIME LAPSE โหมดนี้ทำให้บันทึกได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ภาพจะลด Frames rate ลงและทำให้กิน memory น้อยลง TIME LAPSE MODE ใน F800 PRO บันทึกที่ 2 frame ต่อวินาที ช่วยลดขนาดของไฟล์ ทำให้สามารถบันทึกได้นานขึ้น 9 เท่าจากการบันทึกปกติ ส่วนระบบ ADAS ROAD SAFETY WARNING SYSTEM ก็อัดแน่นด้วยประโยชน์มากเช่นกัน สามารถแจ้งเตือนรถออกนอกเลน เช่น คนขับหลับในแล้วรถออกนอกเลน จะมีการแจ้งเตือนแจ้งเตือนก่อนเกิดอุบัติเหตุ เช่นเข้าใกล้คันหน้ามากไปในความเร็วสูงก็จะมีเสียงแจ้งเตือน ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเลื่อน เช่นรถติดไฟแดงแล้วเราใช้มือถืออยู่ และคันหน้าเลื่อนไปแล้ว กล้องก็จะแจ้งเตือนเรา
อีกทั้งเรื่องการเปลี่ยนระดับแสงของกล้องโดยฉับพลันในส่วนที่สว่างเกินไป เมื่อคุณกำลังขับรถภายใต้แสงแดดจ้าออกมาจากอุโมงค์หรือใต้ร่มเงาของอาคารสูง ฯลฯ เค้าก็มีฟังก์ชั่น WDR ที่ช่วยลดจุดสว่างที่มากเกินไปให้กับการบันทึกภาพ เพื่อแก้ไขความสมดุลของสีเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนที่สุด THINKWARE ใช้เซนเซอร์ตรวจจับการทำงานของภาพที่มึดลง ฟังก์ชั่นมาตรฐานของการควบคุมความสว่างและสีรวมทั้งการตัด Noise ในภาพให้น้อยที่สุด และสุดท้ายคือการอัพเดตเฟิร์มแวร์โดยใช้สมาร์ทโฟน โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณและ F800 PRO นั้นสามารถเชื่อมต่อกันผ่าน APP ‘THINKWARE DASH CAM Mobile Viewer เพราะกล้อง F800 PRO นั้นมาพร้อม Wi-Fi ในตัว ทำให้สามารถดาวน์โหลดหรือลบภาพที่บันทึก และอัพเดตเฟิร์มแวร์ของตัวกล้องได้เลยค่ะ
กล้องตัวหลังของธิงค์แวร์เค้าก็ไม่ธรรมดา กล้องตัวเล็กเท่านี้แต่เลนกว้าง 140 องศา บันทึกทีดีโอได้ Full HD 1080p 30FPS เหมือนกล้องตัวหน้าเลย และเพราะขนาดที่เล็กจึงทำให้เมื่อติดตั้งเสร็จ ดูเรียบร้อยมากๆ