DETAIL
| MODEL | : Mercedes Benz C350e W205 |
| INSTALLATION | : กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 |
หลังจากงานเปิดตัวกล้องติดรถยนต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆท่านคงจะเริ่มเห็นว่าแบรนด์ Mio ที่เป็นผู้ผลิตกล้องติดรถยนต์ในยุโรปและเอเชียแปซิฟิก ได้ประกาศเปิดตัว กล้องติดรถยนต์ แบบมี WiFi ในตระกูล Mio MiVue 7 Series (มีโอ้ ไมวิว ซีรี่ส์ 7) อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดย Mio นั้นเค้ามุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งาน ด้วยแนวคิดที่เป็นหัวใจหลัก “All About You” กันเลยทีเดียว วันนี้ทีมงานเราจะติดตั้งอุปกรณ์รุ่นไหนบ้าง ตามมาชมกันเลยค่ะ
รถที่ทีมงาน HMS Thailand ได้เดินทางมาทำการติดตั้งเป็นรถ Mercedes Benz C350e W205 ที่ใช้เทคโนโลยี Plug in hybrid และถือเป็นรถ Plug in hybrid ที่มียอดขายต้นๆ ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยี Plug in hybrid ที่ทำให้รถสามารถชาร์จไฟได้เหมือนรถไฟฟ้า (EV) ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กม./ชม. ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานตามกฏหมายจราจรในประเทศไทย ทำระยะทางได้ไกลสุดถึง 30 กว่ากิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะเป็นระยะทางที่น้อยกว่ารถยนต์ EV มาก แต่ก็มีจุดเด่นที่มาชดเชยคือสามารถใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนได้เมื่อกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่อ่อน และยังสามารถชาร์จไฟกลับไปในขณะขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องง้อปลั๊กชาร์จไฟแต่เพียงช่องทางเดียว ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยในปัจจุบัน มากกว่ารถ EV ที่ยังมีสถานีชาร์จไฟไม่เพียงพอ แถมยังใช้เวลาชาร์จจนเต็มนานกว่าการเติมน้ำมันมาก ถ้าใครเคยนั่งรอรถเติมก๊าซ NGV คงจินตนาการได้เป็นอย่างดีว่ารถไฟฟ้าช่วงแรกจะมีสถาวะเป็นอย่างไร
มาถึงอุปกรณ์ที่ทีมงาน HMS Thailand ทำการติดตั้งบนรถ Mercedes Benz C350e คุณลูกค้าได้เลือกติดตั้งกล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 กล้องติดรถยนต์เรือธงของแบรนด์มีโอ้ MiVue 792 มีหน้าจอในตัวขนาด 2.7 นิ้ว ติดตั้งที่ด้านหน้ารถ (นอกจากนี้หลายๆท่านยังให้ความสนใจกับ Mio MiVue A30 กล้องเสริมตัวหลัง ซึ่งสามารถเลือกว่าจะติดหรือไม่ก็ได้ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ คลิก) ในส่วนของการติดตั้งเนื่องจาก Mio MiVue 792 รองรับ Parking mode หรือการบันทึกขณะรถจอด หากติดตั้งแบบธรรมดาโดยใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่ จะทำให้ไม่สามารถใช้ฟักง์ชั่น Parking mode ได้ เพราะเมื่อรถจอดดับเครื่อง ระบบของรถ Mercedes Benz C350e จะทำการตัดกระแสไฟของที่จุดบุหรี่ในรถ ดังนั้นการติดตั้งให้ MiVue 792 สามารถใช้ Parking mode ได้จะต้องติดตั้งกล่อง Smart box ตัวช่วยตัดไฟอัตโนมัติหากกระแสไฟในแบตเตอรี่ต่ำเกินจากที่ตั้งไว้ (ตั้งให้ตัดตั้งแต่กระแสไฟเหลือไม่น้อยก็ได้) การติดตั้งวิธีนี้จะต้องติดตั้งโดยช่างที่มีความชำนาญเท่านั้น เพราะหากติดตั้งผิดสายอาจทำให้เกิดความผิดพลาดที่ระบบของรถได้ หลังติดตั้งเสร็จกล้อง MiVue 792 ก็จะพร้อมใช้งานบันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD ด้วยจำนวนเฟรมต่อวินาทีสูงถึง 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งกล้องติดรถยนต์ทั่วไปในตลาดส่วนมากจะที่อยู่ที่ 25-30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น ชิปเซตภายในลิขสิทธิ์จาก Sony Starvis ผลที่ได้คือวีดีโอที่มีมิติและความคมชัดมากยิ่งขึ้น วีดีโอเล่นลื่นไหลมากยิ่งขึ้น กลางคืนเห็นชัดมากขึ้น พร้อมกันนั้น MiVue 792 ยังมี GPS ที่ช่วยในการบันทึกพิกัดและความเร็วรถลงในตัววีดีโอ และนำข้อมูลไปใช้กับระบบ ADAS หรือระบบที่ช่วยเตือนการขับขี่ เช่นเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน(LDWS) เตือนเมื่อขับรถกระชั้นชิดคันหน้ามากเกินไป (FCWS) เป็นต้น มี Wifi ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อดูวีดีโอที่บันทึกไว้หรือแม้กระทั่งการตั้งค่าตัวกล้องบันทึกจากสมาร์ทโฟนได้ มีแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมที่รองรับทั้ง Android,iOS,Window,MacOS โดยรวมแล้ว MiVue 792 ถือว่าคุ้มค่าสมกับเป็นกล้องอันดับ 1 ของแบรนด์ Mio ทั้งนี้การเชื่อมต่อกับ Apps ก็ไม่ยุ่งยาก มีจอและปุ่มสั่งงานที่ใช้งานง่าย เป็นกล้องติดรถยนต์ที่น่าสนใจตัวหนึ่งไม่เบาเลยค่ะ