DETAIL
| MODEL | : Mercedes Benz GLA250 W156 |
| INSTALLATION | : กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue 792 (ตัวหน้า)
: กล้องติดรถยนต์ Mio MiVue A30 (ตัวหลัง) |
พูดถึงยุคนี้ สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนในชีวิตประจำวันของเรา การกดไลค์ กดแชร์ภาพคลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตช่วยให้ข่าวสารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ภาพที่เรามักพบเห็นจนชินตาเลยคือภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการพฤติกรรมการขับขี่ โดยสาเหตุหลักๆ ที่เราทราบดีก็คือการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดและการขาดวินัยการขับขี่ หลายๆครั้งนำไปสู่การก่อเหตุทำร้ายร่างกายของคู่กรณีจนเป็นข่าวดัง และปัจจุบันกล้องติดรถยนต์ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่ผู้ขับขี่นำมาใช้บันทึกการเดินทางบนท้องถนนเพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดี จนสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เล็งเห็นความสำคัญและอนุมัติคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยมอบส่วนลดเบี้ยประกันภัย 5 – 10% ในการรับประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และต้องติดตั้งกล้องไว้ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย และสำหรับมือใหม่ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของการขับรถที่ยังไม่ชำนาญมือหรือไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเลือกกล้อง และกำลังตั้งคำถามกับตัวเองว่า “รถเราต้องติดกล้องกี่ตัวดี” หรือ “ควรติดที่ตำแหน่งใดบ้าง” ก็เลยเป็นหน้าที่ของ HMS Thailand ในการมอบความสะดวกในการเลือกสรรกล้องติดรถคุณภาพดีพร้อมความชำนาญในการติดตั้งให้กับทุกท่าน
และสำหรับวันนี้รถที่ทีมงาน HMS Thailand มาติดตั้งนั้นคือ GLA250 รถยกสูง Sport Crossover จากค่าย Mercedes Benz
ชิ้นแรกที่ทีมงานทำการติดตั้งเป็นกล้องบันทึกจาก Mio รุ่นที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ MiVue 792 ตัวท็อปใน MiVue 7 Series ที่มีดีทั้งชิปเซตโซนี่ ชิ้นเลนส์กระจก การประกอบพร้อมการตรวจสอบจากโรงงานผลิตอย่างพิถีพิถัน โดยความพิเศษของยี่ห้อ Mio อย่างหนึ่งก็คือเรื่องการจับสัญญาณ GPS ที่ดีมาก ทว่า GPS ที่ใส่มากับ Mio MiVue 792 นั้น ไม่ได้มีไว้ใช้นำทางแต่อย่างใดนะคะ เค้าเอาไว้ใช้จับความเร็วของรถ เพื่อนำมาใช้กับระบบ ADAS (Advance Driver Assistant System) ระบบเตือนผู้ขับขี่ เช่น LDWS เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน FCWS เตือนเมื่อรถขับกระชั้นชิดคันหน้ามากเกินไป หรือแม้กระทั่งเตือนกล้องตรวจจับความเร็วกล้องฝ่าไฟแดง(เพิ่มด้วยตัวเอง) ก็สามารถทำได้ และยังสามารถดูเส้นทางที่รถวิ่งได้จาก แอพพลิเคชั่น MiVue Manager บน PC และอย่างที่ได้กล่าวไปเมื่อตอนต้นความพิเศษของ Mio MiVue 792 คือชิปเซ็นเซอร์ Sony Stavis CMOS เซ็นเซอร์รับภาพที่ช่วยให้วีดีโอที่ถ่ายในภาวะแสงน้อย ชัดขึ้น สว่างขึ้น มี Noise น้อยลง ความละเอียดของวีดีโอที่บันทึกสูงสุด Full HD 60FPS ด้วยอัตรากระพริบภาพที่สูงถึง 60 ภาพต่อวินาที ทำให้ได้วีดีโอที่มีความลื่นไหลมากขึ้นไม่กระตุก แถมยังมี Wifi ในตัวสำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ดูวีดีโอที่บันทึกไว้ ตั้งค่ากล้อง หรือแม้กระทั่งดาวโหลดไฟล์วีดีโอจากกล้องมาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน
สำหรับท่านนี้เลือกติดตั้งกล้อง 2 ตัวหน้าและหลัง โดยกล้องติดรถยนต์ตัวหลังใช้ Mio MiVue A30 ที่เป็น Option เสริมให้กับ MiVue 792 โดยเจ้า MiVue A30 เขาใช้วัสดุโลหะเป็นบอดี้ของตัวกล้องทำให้มีความแข็งแรงทนทาน ใช้เลนส์กระจกที่แข็งแรงและทำให้ได้ภาพที่ชัดมากขึ้น ถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด Full HD 30FPS F1.8 มุมมองกว้าง 130 องศา สายที่ให้มายาวพอที่จะติดได้แม้กระทั่งรถตู้ขนาดมาตราฐาน วีดีโอที่บันทึกจะถูกเก็บที่ Micro SD Card ของกล้องตัวหน้า แถมยังแยกปรับชดเชยแสง(EV) อิสระได้อีก 7 ระดับ